Taipei! 3 วัน 3 คืน เที่ยวให้สุดตามจุดเช็คอินไทเป ไต้หวัน
Taipei (ไทเป) ชีวิตดีๆที่ลงตัว ไปมาสะดวก ค่าเงินเหมือนอยู่บ้านตัวเองเลย
ตอนที่เกี่ยวข้อง
- อ่านข้อมูลเบื้องต้นและสรุปค่าใช้จ่าย
- Sun Moon Lake สวยแค่ไหนเชียวนะ (Day1)
- Cingjing-Hehuanshan-Taroko-Hualien (Day2)
- Hualien ไต้หวันไม่ได้มีดีแค่ Taroko (Day3)
ใครไม่เปย์ “ไทเป” เอ้ย! เคยได้ยินไหมว่า ประเทศไต้หวันเหมือนญี่ปุ่นย่อส่วน! เราได้มีโอกาสเที่ยวโตเกียวมาก่อนหน้า พอได้มาเห็นไทเปครั้งแรก ก็เอ่อ..มีความคล้ายนะ ในด้านขนส่งมวลชน ด้านความสะอาดและเป็นระเบียบของบ้านเมือง
ส่วนการใช้จ่ายที่นี่สบายหายห่วง เพราะค่าเงินที่ไต้หวัน เรตใกล้เคียงกับค่าเงินบาทไทยมาก เพราะฉะนั้น ใช้จ่ายอะไรไม่ต้องคิดมากเลย ทีนี้ก็เที่ยวอย่างเต็มที่กันเลยค่ะ
Taoyuan Airport MRT รถไฟเข้าไทเป
เริ่มต้นจากการหาซื้อบัตร Easy Card ก่อนเลยค่ะ เราซื้อบัตรที่หน้าสถานีรถไฟTaoyuan MRTเลย ราคาค่าบัตร 100NT ขอค่าบัตรคืนไม่ได้ แต่หากใครอยากได้บัตรลายสวยๆเป็นตัวการ์ตูน สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ ราคาก็จะสูงกว่าบัตรธรรมดา
ซื้อบัตรครั้งแรกที่หน้าสถานีรถไฟTaoyuan MRT ขั้นต่ำจ่าย500NT (ใช้เงินในบัตรได้400NTเป็นค่าบัตร100NT) หลังจากนั้นหากเงินไม่พอจะเติมเงินเท่าไหร่ก็ได้ ตามสถานีรถไฟจะมีตู้ให้เติมค่ะ เวลาโดยสารรถต่างๆ ก็แค่แตะ ติ๊ดๆ เท่านั้น
จากสนามบิน Taoyuan เราเลือกเข้าไทเปด้วยการนั่งรถไฟ Taoyuan MRT มาลงสถานี Taipei Main
รถไฟ Taoyuan MRT มีสองสายคือ 1.สายสีม่วง (Express) จอดแค่ 5 สถานี และสายสีน้ำเงิน (Commuter) จอดทุกสถานี ราคา 160NT เท่ากัน เราเลือกนั่งสายสีม่วงเพราะตรงมาสุดสายที่สถานี Taipei Main เลยค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึง และก็เก็บของเช็คอินเข้าที่พัก Twing Stay Hostel <<อ่านรีวิวที่พักได้ที่นี่
LET’S GO ตะลอนไทเปกันค่ะ
วันแรกที่อยู่ไทเป เราก็ถึงตัวเมืองไทเปค่อนข้างดึก แต่สายถึกอย่างเราก็ไม่วายจะออกไปเดินเล่นหาของอร่อยลงท้องสักหน่อย แล้ววันถัดไปเราก็ขอเที่ยวแบบจัดเต็มกันเลยทีเดียว
Le Yi B.B.Q. กินบุฟเฟ่ที่ไต้หวัน
มื้อเย็นในวันนี้เรา ขอหนักๆจัดเต็มหน่อย เพื่อนๆตกลงกันมากินปิ้งย่าง เลยได้มีโอกาสมาลองร้าน Le Yi B.B.Q. BUFFET ร้านตั้งอยู่บนชั้นสองในย่าน Ximending ทางเข้าอยู่ข้างๆ Rainbow Hotel
ร้านไม่ใหญ่มาก แต่มีกระจกมองออกไปข้างนอกได้ทำให้ไม่รู้สึกไม่แคบและอึดอัด
ของคาวทั้งเนื้อหมู ไก่ วัว และอาหารทะเลอย่าง กุ้ง หอย ปลาหมึก ก็มีครบ
ของหวานอย่างไอศกรีมHaagen-DazsและMovenpick ก็มา
เบียร์ฟรี เนื้อนุ่ม หมูก็งาม มีชาบูให้อีก 1 หม้อ รวมๆแล้วรสชาติอาหารดีคุ้มค่า คุ้มราคาค่ะ น้ำจิ้มใช้ได้ หลังๆพนักงานเสิร์ฟของช้า หายไปไหนไม่รู้แต่เราอิ่มพอดี โอเคไม่ว่ากัน ฮ่าๆ
Ximending ยามค่ำคืน
กินเสร็จแล้วว่าจะพาไปเดินร้าน ABC-MART แต่ดูเจ้าหมามันจ้องสิ 55555 แอบตกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะเหลือบไปเห็นว่าร้านปิดแล้ว รวมถึงร้านค้าส่วนใหญ่ก็เริ่มจะปิดเช่นกัน ใครจะมาอย่ามาดึกเกินไปแบบเรานะคะ แต่เดี๋ยวเรามาอีกรอบ5555
ร้านปิดแล้ว โพสต์ท่าได้ เก๋ๆ
มีความ Graffiti อยู่ทุกที่ อาร์ตสุด
ทางระหว่างเดินกลับที่พักค่ะ จาก Ximending เราใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที บรรยากาศประมาณเที่ยงคืน คนน้อยมาก เงียบสงบกว่าที่คิด อาจจะดูเปลี่ยวๆแต่กลับไม่รู้สึกว่าอันตรายเลยค่ะ
วันนี้เราจะพาไปที่เที่ยวยอดฮิตไม่ไกลจากไทเปซึ่งก็คือหมู่บ้านแมวHoutongและJiufenค่ะ แต่ก่อนไป ขอแวะชอปปิ้งแป๊ปนึงน้า ตามมาดูเลยค่ะ
Outlet ที่คาร์ฟูมีของ Sale
วันนี้เราเช็คเอาท์จากที่พักเพราะจะไปนอนค้างที่ Juifen (จิ่วเฟิน) 1 คืน พวกเราเลยตั้งใจจะไปช็อปปิ้งซื้อรองเท้ากันก่อนที่ Outlet ห้างคาร์ฟู (เพื่อนๆตามกลุ่มไต้หวันเขาแปะไว้ว่าราคาถูก!!)
ก็หาวิธีเดินทางและตามไปลองดูว่าจะถูกแค่ไหน จะได้สอยอะไรกลับมามั้ยนะ?? ดูแผนที่กันเรียบร้อยก็ออกเดินทางเลยค่ะ เดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ขึ้นจากสถานี Taipei Main
เมื่อถึงสถานี Zhongxiao Fuxing (จงเซี่ยวฟู่ซิง) เราเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 5 นาที ระยะทางไม่ใกล้ไม่ไกล แต่ด้วยความที่พวกเราต้องลากกระเป๋าไปด้วย และมีฝนตกมาปรอยๆ ก็รู้สึกว่าต้องได้รองเท้าแล้วหละ ลุยมาขนาดนี้
แต่เมื่อถึงห้างเรากลับพบว่า……. ก็ไม่ได้ลดเยอะนิหน่า ~~~ ราคาพอๆกับตามช็อปทั่วไปเลย ร้านก็ดูน้อยๆ ตอนแรกไม่แน่ใจว่ามีแค่นี้จริงๆหรอ เดินวนสองรอบ + ถามพนักงานอีกรอบนึง สรุปก็มีเท่าที่เห็น สงสัยคงไม่ใช่ช่วงที่จัดโปรโมชั่น ก็เลยไม่มีใครได้อะไรกลับมาเลย ถึงการช้อปปิ้งจะล้มเหลว แต่ก็ถือว่าไม่ต้องเสียตังค์จ้า 5555555 (ปลอบใจตัวเอง)
หมู่บ้านแมวHoutong น้องแมวอยู่ไหน!
ถึงไม่ได้รองเท้าใหม่ แต่ขอได้เจอน้องแมวหน่อยละกัน ไป Houtong Cat Village (หมู่บ้านแมวโหวต้ง) กันค่ะ
วิธีเดินทาง: ขึ้นรถไฟ TRA จากสถานีTaipei main ซื้อตั๋วเพื่อไปลงสถานี Ruifang ราคาคนละ 48NT จากสถานีRuifangนั้น ซื้อตั๋วรถไฟสายผิงซีคนละ15NT ไปลงสถานี Houtong
ดูหน้าตาจะเคร่งเครียดอะไรขนาดนั้น 5555 แค่ผิดหวังจากการไปแล้วไม่เจอของ Sale เอ๊งงง
เมื่อถึงสถานี Taipei Main ก็มาซื้อตั๋ว TRA เพื่อนั่งรถไฟไปยังสถานี Ruifang ราคา 48NT (ถูกมาก)
มารอรถไฟTRAที่ชานชาลา ในสถานีจะมีบอกว่ารถขบวนของเราจะมาถึงกี่โมง และก็ค่อนข้างตรงเวลาเลยค่ะ
ลงสถานี Ruifang เพื่อมาต่อรถไฟไปหมู่บ้านแมวHoutongกัน ลงมาก็เจอกันฝนตกหนักพอสมควร ใครมีกระเป๋าเยอะ ที่สถานีRuifangนี้มีที่ฝากกระเป๋านะคะ แต่เราไม่ได้ฝากเพราะฝนตกเดินไปไหนก็ลำบาก ขัดใจนัก แบกไปเที่ยวด้วยเลย
จริงๆแล้วรถไฟTRAที่เรานั่งมา มีป้ายว่าไปถึงHoutongด้วย แต่เราพึ่งรู้ตอนขึ้นรถมาไฟแล้วและเราซื้อตั๋วลงแค่Ruifang เราเลยไม่ได้นั่งต่อไป เลยไม่รู้ว่าถึงHoutongสถานีเดียวกันกับที่เราจะไปไหม
สถานี Ruifang ทางออกจากสถานีจะมีเคาร์เตอร์จำหน่ายตั๋วอยู่ ให้เข้ามาซื้อตั๋วด้านในกับเจ้าหน้าที่ เราซื้อตั๋วรถไฟสาย Pingxi (ผิงซี) ราคา 15NT
หรือหากใครมีเวลาเที่ยวเยอะ ก็มีจำหน่ายเป็น Pass เหมาๆ 1 Day ราคาผู้ใหญ่เพียง 80NT ซึ่งมีสถานที่เที่ยวอีกมายมายในเส้นทาง Pingxi Line เลยค่ะ
รอรถไฟสักพักหนึ่งค่ะ ฝนยังคงตกไม่มีทีท่าจะซา
รถไฟจะมีลวดลายสวยงาม น่ารักดีค่ะ
ด้านในก็มีความคลาสสิค สไตล์โบราณ
ถึงหมู่บ้านแมวแล้วค่ะ ฝนเอยยังคงไม่หยุดตก ตกอย่างงี้แมวก็หายหนะสิ (หนาวมากด้วย) เอเวอรี่ติงเป็นแมวไปหมด ทั้งป้ายต่างๆแผนที่ต่างๆ น่ารักดีค่ะ
ลงจากสถานีมาก็เจอร้านค้า จะมีร้านค้า ร้านอาหาร และของฝากต่างๆ
ชื่นชมบรรยากาศที่ธรรมชาติมากๆเลย
เจอแล้วแมวตัวแรก นี่บรรยากาศชวนนอนมาก
ส่วนตัวที่สอง มาถึงก็อ้อนเกาะแกะเลย น่ารักก
ฝนตกปรอยๆ เราจึงเดินมาชมน้ำตก เดินตามเสียงมาเลย สวยและธรรมชาติสุดๆ
เมื่อหันไปทางซ้ายก็เห็นปลายทางที่น้ำตกไหล และมีสะพานรูปทรงแปลกตาสวยไปอีกแบบค่ะ
ถ่ายรูปสักพักก็หาร้านคาเฟ่นั่ง ที่Moggy cafe อื้อฮือ ราคาแรงพอๆกับฝน แต่หากได้มาชิมรสชาติแล้ว คุ้มค่าค่ะ ได้เยอะมาก รสชาติดี ปริ่มมาก โดยเฉพาะชานมเฮเซลนัทที่สั่งไป หอมเย้ายวนชอบมากเลยค่ะ
บรรยากาศในร้าน อบอุ่นมาก
ของกินเล่นที่สั่ง “หอมทอด” อร่อยมาก กรอบๆ
เครื่องดื่มเป็นชา หอมมากๆ
ส่วนอาหาร เรากินเป็นข้าวผัดรีซอตโต้ รสชาติดี แม้ราคาจะสูงไปหน่อยก็ตามแต่ปริมาณคุ้มกับราคามากๆเพราะเสิร์ฟมาพร้อมซุปกับขนมปังด้วย
แมวตัวที่สาม เจ้าแมวของเจ้าของร้านนี้เอง
ตัวที่ 4 ก็จะเขินๆหน่อย ของร้านนี้เช่นกัน ตอนอยู่ในร้านนี่โดดเก่งเลยนะ
หมู่บ้านแมวค่อนข้างเล็ก แมวก็ไม่เยอะอย่างที่ฝันเพราะฝนตก แต่บรรยากาศดีมาก ได้สูดอากาศสดชื่นอย่างเต็มปอด แต่ยังมีอีกจุดที่เราแว๊ปไปชมได้แป๊ปเดียว
กลับขึ้นมาบนสถานี ตรงนี้เป็นทางเชื่อมข้ามไปที่โซนหมู่บ้านชุมชน จะมีร้านค้าและค่าเฟ่น่ารักๆ
มองไกลๆจากบนสถานี
พอได้ลองข้ามฝั่งมา ก็ยิ่งพบความน่ารักของเมืองนี้ แต่ก็เสียดายที่มีเวลาไม่มากต้องรีบเดินทางต่อไปยัง Jiufen (จิ่วเฟิน) ก่อนที่จะค่ำ
ความวุ่นวาย..ที่ชวนให้หลงรักที่Jiufen
เราเดินทางมาต่อกันที่ Jiufen (จิ่วเฟิน) เป็นอีกสถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยว อีกทั้งเป็นเมืองที่อยู่ในการ์ตูนอะนิเมะที่โด่งดังเรื่อง Spirited Away อีกด้วย ถือเป็นเมืองเก่าแก่และโบราณที่มีเสน่ห์ชวนให้หลงใหลแบบที่บรรยายยังไงก็ไม่สู้มาสัมผัสเองจริงๆ
วิธีเดินทาง: ขึ้นรถไฟ TRA จากสถานีTaipei main ซื้อตั๋วเพื่อไปลงสถานี Ruifang ราคาคนละ 48NT จากสถานีRuifangเดินตรงออกมาข้ามถนนแล้วเลี้ยวซ้าย เดินต่อไปเรื่อยๆป้ายรถเมล์อยู่ถัดจากสถานีตำรวจใหญ่ๆ
สำหรับเรา จาก Houtong Cat Village (หมู่บ้านแมวโหวต้ง) เดินทางกลับมายังสถานี Ruifang และเดินมาป้ายรถเมล์ที่ติดสถานีตำรวจ ที่ป้ายรถเมล์จะมีบอกว่าสายไหนไป Jiufen (จิ่วเฟิน) สายไหนมาก่อนก็ขึ้นได้เลย
ป้อมตำรวจนี้อยู่หน้าทางออกเล็กของสถานี Ruifang ไม่ใช่ตรงนี้นะคะ อย่าเข้าใจผิด ให้เดินตรงไปข้ามถนนไปก่อน
ป้ายรถเมล์ที่อยู่หน้าสถานี Ruifang ขากลับลงมาจาก Jiufen (จิ่วเฟิน) จะมาจอดตรงนี้ ส่วนขาไปต้องข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเลี้ยวซ้ายและเดินขึ้นไปมาณ 500 เมตร ผ่านสถานีตำรวจไปนิดนึงค่ะ
สายที่เราขึ้นคือสาย 1062 ขึ้นรถมาปุ้บก็เอาบัตร Easy Card ติ้ดปั๊บ แตะบัตรตอนขึ้นและตอนลง สะดวกๆสุด คนที่รออยู่ป้ายรถเมล์เดียวกันก็ขึ้นคันนี้กันเยอะ ใครไม่มีที่นั่งก็ยืนโหนเอา ใช้เวลาไม่นานประมาณ 20 นาทีก็ถึงที่หมาย
จากที่ฝนตกอยู่แล้ว พอขึ้นมาด้านบน ตกหนักกว่าเดิมอีกเจ้าค่ะ ขาวโพลนไปหมด เห็นแบบนี้ นักท่องเที่ยวก็ยังมากันเต็มเลยนะคะ หลายคนเตรียมเสื้อกันฝน เตรียมร่มมาพร้อมเลย
ก่อนอื่นก็ลากกระเป๋าเก็บที่พักกันก่อนค่ะ คืนนี้เราพักกันที่ Kozy Stone B&B << อ่านรีวิวที่พักได้ที่นี่ จากการเปิด Google Map ให้นำพาไปที่พัก ก็เลือกทางที่ดีมากจ้า พาเข้าทาง Jiufen Old Street ซึ่งเป็นทางที่ต้องลากกระเป๋าผ่านตลาด และฝูงชนมากมาย
บรรยากาศช่วงที่เราไปถึงค่ะ คนเยอะมาก ฝนที่ตกไม่เป็นอุปสรรคใดๆทั้งสิ้น
เดินมาจนเจอทางลงบันไดนี้ ถึงหลุดพ้นความวุ่นวายไปได้ ซึ่งบริเวณนี้ก็จะมีที่พักอยู่มากมาย แปลกมาก ที่ตรงนี้เงียบสงบเหมือนอยู่กันคนละที่ แม้จะห่างจากตลาดเพียงไม่กี่ก้าวก็ตาม
หลังจากเช็คอินและเก็บของเรียบร้อยก็ออกมาเดินตลาดกันค่ะ ตอนนั้นเวลาประมาณ 1 ทุ่ม คนก็ยังเยอะและฝนก็ยังคงตกอยู่เลยค่ะ แต่ด้วยอุณหภูมิที่เย็น ลมพัดโชย ก็ทำให้ความชุ่มฉ่ำนี้ดูสดชื่นเลยทีเดียว เดินเที่ยวชมไปได้เรื่อยๆ เพลินเลยค่ะ
ตั้งใจจะมาหาอะไรกินเป็นข้าวมื้อเย็นค่ะ แต่เยอะขนาดนี้ เลือกไม่ถูกเลย จริงๆก็มีร้านค้าขายสินค้าเกี่ยวกับการ์ตูนอะนิเมะเรื่อง Spirited Away ด้วยนะคะ แต่พอดีสนใจแต่ของกินมากไปหน่อยค่ะ แหะๆ
เมื่อเดินจนสุดถนน ก็ออกมาพบกับจุดชมวิว ซึ่งหมอกหนามาก เห็นแต่เม็ดฝนที่ตกลงมา
แต่ถึงกระนั้น ก็เป็นบรรยากาศที่สวยงามไม่เบาเลยว่ามั้ยคะ
จริงๆแล้ว ถ้าไม่ใช่ช่วงถนนคนเดิน บรรยากาศมันก็บ้านๆมาก ดูเก่าๆ เงียบสงบ แบบนี้หละค่ะ
กลับเข้ามาที่ถนนคนเดิน ก็ได้เจอมุมยอดฮิต ตรงนี้เป็นทางขึ้นลงบันไดในตรอกเล็กๆ ถูกประดับด้วยโคมแดงตลอดทาง และป้ายตัวการ์ตูน “ภูตไร้หน้า” จากการ์ตูนอะนิเมะเรื่อง Spirited Away นั่นเอง
อะๆๆ ได้เวลาหาอะไรลงท้องแล้ว เราเดินผ่านร้านหนึ่ง คนเข้าเยอะมาก เป็นร้าน Taro balls หรือบัวลอยไต้หวัน ชิ้นใหญ่ เหนียวหนึบหนับน้ำขิงหอมๆ รสชาติดีเลยค่ะ คนเยอะแต่ก็รอไม่นาน ส่วนใหญ่คนมานั่งกินเสร็จแล้วก็ออก ไม่ค่อยนั่งนานๆ กินบัวลอยร้อนๆท่ามกลางอากาศหนาว ทำให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นเลย
ร้านต่อมาเป็นของทอดบ้างนะคะ เดินผ่านไปไม่ได้จริงๆ เพราะน่ากินมากกกก คนรอเยอะ แต่ก็มีหมายเลขคิวให้ เป็นระเบียบดี รอนานอยู่ค่ะ รอจนร้านข้างๆไล่ (ไปยืนเกินหน้าร้าน 55555) แต่พอได้ลิ้มรสแล้วก็รู้เลยทำไมคนถึงเยอะ ปลาหมึกเด้งๆ กรอบๆ เหยาะพริกกับผงกะหรี่สูตรเด็ดทางร้าน เข้ากั้นเข้ากัน วางไม่ลงจริงๆ สั่งมาน้อยเสียดายเลย
อีกร้านหนึ่งที่ได้ลองเป็นเห็ดย่างค่ะ เดินผ่านได้กลิ่นหอม น่ากินดี แต่พอชิมแล้วไม่ค่อยฟินเท่าไหร่ก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากค่ะ
ของหวานที่ขาดไม่ได้ “ชานมไข่มุก” ต้องมีให้ได้กินทุกวัน ตลอดทริป 55555 ครั้งนี้เราได้ลองชานมปั่นใส่ไข่มุก ชาหอมมาก หอมแบบหอมมม /ละมุน~~~ ไข่มุกก็ดีงามแต่ก็ติดตรงรสชาติหวานมากไปหน่อย
ส่วนข้างๆร้านชานมจะมีตู้วางไดฟูกุถั่วแดงโปะสตอเบอรี่ เคยลองกินที่ญี่ปุ่น แล้วเจอร้านสตอเบอรี่เปรี้ยวเลยอยากลองที่นี่ดู สตอเบอรี่หวานแต่ไม่มากไส้ถั่วแดงเยอะ รสชาติผ่านนะ แต่ยังไม่ว้าว
เดินกันจนหลายร้านค้าปิด รถเก็บขยะก็ขับมาเก็บขยะกันแล้ว คนก็น้อยลงๆ อากาศก็หนาวขึ้นๆ คงต้องขอตัวกลับไปนอนพักก่อน เดินกินจนเหนื่อยพุงมีทั้งร้านถูกใจและเฉยๆ แต่แค่ได้มาอยู่ในบรรยากาศตลาดแบบนี้ก็สนุกมากๆเลยค่ะ
เช้าวันนี้เรายังอยู่กันที่Jiufen ส่วนตอนบ่ายเรากลับมาตะลุยTaipeiกันต่อ ตามมาเลยค่า
จิบชา..ชมวิวยามเช้าที่Jiufen
เช้านี้เรายังคงอยู่กันที่ Jiufen (จิ่วเฟิน) จะพาเพื่อนๆไปชมบรรยากาศยามเช้า พร้อมกับจิบชาร้อนๆท่ามกลางลมหนาว จะเป็นร้านน้ำชาไหนไปไม่ได้ นั่นก็คือ ร้าน Amei tea house (น้ำชาอาเหม่ย) แลนด์มาร์คอันดับต้นๆ ที่ห้ามพลาด!
เราตื่นกันแต่เช้า เปิด Google Map อีกเช่นเคย ร้านน้ำชาอาเหม่ยอยู่ห่างจากที่พักไม่มาก ระหว่างทางไปก็เห็นบ้านเรือนของที่นี่ มีผู้คนที่ตื่นแต่เช้ามาเดินชมเมืองเหมือนกัน บรรยากาศดูเงียบสงบ รู้สึกได้ถึงวิถีชีวิตแบบบ้านๆที่นี่เลย
เป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ และความเท่ผสมกันอย่างลงตัว
บันไดทางขึ้น ตอนเช้าๆก็มีคนเดินกันไม่น้อยเลยค่ะ
บรรยากาศร้าน มีความเก่าและดูดี ดูแพงใช้ได้ เมื่อมาถึงร้านเราเลือกที่นั่งด้านบนเพื่อรับชมวิวที่สวยงาม มองไปได้ไกล ทะเลยิ่งใหญ่ แต่ต้องบอกเลยว่านั่งตรงนี้หนาวมาก! ลมนี่ตีเข้ามาตลอดขนาดมีผ้าใบใสกั้น ยังหนาวเลย TT
สำหรับค่าน้ำชาคนละ 300NT ก็รู้สึกว่าแพงนะ แต่ก็เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งเนอะ แล้วพนักงานก็บริการดีมาก พูดภาษาอังกฤษได้คล่องเลย เราสั่งเป็นชาอู่หลง พนักงานจะมาสาธิตการชงชาครั้งแรก ครั้งถัดไปเราก็ชงเอง สนุกเลย
ส่วนขนมเครื่องเคียง บางอย่างเราไม่เคยกินเลยค่ะ หน้าตาดูไม่เป็นมิตร แต่พอได้กินคู่กับน้ำชาแล้วมันเข้ากันสุดๆหยุดไม่อยู่เลย 55555
ใช้เวลาจิบชา ชมวิวกันสักพัก ก็ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้ว แต่ก่อนกลับ ต้องมาเก็บภาพถ่ายมุมนี้ด้วยนะคะทุกคน มุมยอดฮิตมหาชน ให้เดินมาตรงข้ามร้าน ถ้ามาในตอนเช้าคนก็จะไม่เยอะ และเลือกมุมถ่ายรูปได้สะดวกสบาย
แต่ถ้าได้มาถ่ายตอนกลางคืนก็จะเห็นไฟโคมแดงที่เปิดจากโรงน้ำชา ก็จะสวยไปอีกแบบ ซึ่งเราไม่ได้มาเพราะเมื่อคืนฝนตกหนัก ใครมีโอกาสก็อย่าพลาดเลยนะคะ สวยจริงๆ
กลับไปเที่ยวไทเปต่อ
เหลือเวลาอีก 2 วันสุดท้ายแล้ว กลับไทเปกันดีกว่า มีที่เที่ยวอีกเยอะแยะที่ยังไม่ได้ไป ต้องรีบทำเวลาแล้วหละ แต่ก่อนอื่นต้องหาป้ายรถเมล์เพื่อนั่งกลับไปยังสถานี Ruifang ก่อน 5555 ตอนมาหนะง่าย ตอนกลับนี่ลากกระเป๋าหาป้ายรถเมล์กันเพลินเลย
ระหว่างเดินหา จะมีแท็กซี่จอดเรียกให้ขึ้น ราคาเหมาๆไปถึงไทเปเลยก็มี เราก็ไม่ได้ฟังอะไรมาก ปฏิเสธอย่างเดียว แต่ต้องใจแข็งหน่อยนะ เพราะเขาจะขับชะลอๆคะยั้นคะยอจะให้ไปให้ได้ ขับผ่านไปแล้วยังขับกลับมาถามอีกรอบอะหื้ออออ
สุดท้ายเราก็เจอป้ายรถเมล์ ที่จะนั่งกลับไปสถานีรถไฟค่ะ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับศูนย์ให้ข้อมูลนักท่องเที่ยว เรานั่งรอไม่นานรถก็มา
ใช้วิธีกลับเหมือนตอนขามาค่ะ คือนั่งรถไฟ TRA จากสถานี Ruifang ตรงยาวไปลงที่สถานี Taipei Main
ถึงไทเป(อีกครั้ง)
ลากกระเป๋าไปเที่ยวมันก็ยุ่งยากนิดนึง (ตอนหลังพึ่งรู้ว่ามีฝากระเป๋ารายวันด้วย) ก่อนจะเที่ยวกันต่อ ต้องขอเอาของเก็บที่พักก่อนละค่ะ ลากมาทั้งวัน 55555 การมาที่พักก็เปิด Google Map แล้วเดินเท้ามาประมาณ 10 นาที คืนสุดท้ายของไต้หวันนี้เราพักกันที่ O2 hotel m12 << อ่านรีวิวที่พักได้ที่นี่
เนื่องจากมาถึงก่อนเวลา แต่ได้คุยกับเจ้าของห้องพักผ่านLineมาก่อนแล้ว เขาบอกว่าจัดห้องเสร็จแล้ว ทำให้เราได้เช็คอินได้เลย ได้นั่งพักให้หายเหนื่อยก่อนตะลุยไทเปต่อ
ปิดปากแบบนี้ไม่ใช่ว่าป่วยนะคะ แต่ว่าที่ไทเปอากาศเย็นและมีลมพัดตลอด ไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้ เลยลงทุนซื้อผ้าปิดปากกันลมกระแทกหน้า ลงทุนน้อยแต่ก็ช่วยได้ระดับนึง 555555 พร้อมลุยไทเปแล้วตามมาเลย ว่าเราเก็บที่ไหนมาบ้าง
1.Huansan 1914 Creative Park
ที่แรกในไทเปวันนี้ แถ่น~แทน~แท๊น เรามากันที่ Huansan 1914 Creative Park สถานที่ชิคๆคูลๆ สุดอาร์ต ถ่ายรูปก็สวย นั่งชิวก็ดี สำหรับวัยรุ่นวัยมันส์อย่างเรา 55555
การเดินทาง เดินทางมาโดยรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ลงสถานี Zhongxiao Xinsheng ทางออก 1
จากสถานีเดินตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 300 เมตรก็จะถึงทางเข้าด้านหน้า เป็นลานกว้าง ร่มรื่นและบรรยากาศดี ค่อนข้างใหญ่เริ่มไม่ถูกก็มาดูแผนที่กันก่อน ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีหลายโซนให้เที่ยวชมมากๆ
จุดแรกที่แวะเข้ามาเป็นพิพิธภัณฑ์ Starbucks ด้านในก็เป็นประวัติบอกเล่าเรื่องราวได้น่ารักมาก และมีเครื่องดื่มขายด้วย แต่ขายเฉพาะกาแฟ คนไม่กินกาแฟอย่างเราก็อดชิมเลยจ้า
ตรงข้ามทางเข้า Starbucks เป็นร้านกาแฟ หันไปเห็นน้องหมารอเจ้าของ น่ารักดี
กลับมาที่ Starbucks นี่คือทางเข้าเก๋ๆ
ด้านในผู้คนให้ความสนใจเรื่องราวๆของแบรนด์นี้กันเยอะเลย
เดินเที่ยวกันต่อเพลินๆ
ภายในการยังมีหลายจุดให้เที่ยวชมและถ่ายรูปเล่น เดินไม่ครบจริงๆ มีได้เข้าไปร้านขายของเล่นไม้ น่ารักมาก ราคาก็สูง ขาย Design, ขายความ Creative น่ารักมากๆเลย
2.วัดหลงซาน
ที่เที่ยวต่อมานั่นก็คือ “วัดหลงซาน” วัดที่เลื่องลือซื่อด้านการขอคู่ คนเข้ามาสักระบูชากันเยอะ ภายในมีหลายจุดหลายโซน ไม่ใหญ่มากนัก ของที่ระลึกอย่างเช่นเครื่องรางก็มีด้วยเช่นกัน
การเดินทาง เดินทางมาโดยรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ลงสถานี Longshan Temple ทางออก 1
เมื่ออกจากสถานีมาแล้วก็ไม่ต้องงง เพราะป้ายบอกทางจะมีให้เราเห็นตลอด ขึ้นมาแล้วให้เราเดินเลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 180 เมตร
ระหว่างทางก็เจอกลุ่มคนสูงวัย รวมตัวกันเล่นหมากฮอต หรอ? เห็นแล้วน่ารักดี เล่นกันสองคน นอกนั้นยืนเป็นกองเชียร์ 55555 อย่าลุ้น!
เจอป้ายบอกทางอีกแล้ว เบี่ยงขวาไปอีก 60 เมตร
จริงๆก็เห็นวัดมาแต่ไกลแล้วหละค่ะ ประดับตกแต่งโคมสีเหลืองสวยงามเด่นเป็นสง่าเลย
ภายในด้านในก็มีที่ให้สักระหลายจุด ด้านในร่มรื่นไม่ร้อน สถาปัตยกรรมของวัดที่นี่สวยงามจริงๆ ดูขลัง ถ้าใครมาขอคู่ ได้ผลหรือไม่ยังไงมาบอกกันด้วยนะ ส่วนเราเดินชมรอบๆสักพักก็เดินทางไปยังจุดหมายต่อไป
3.อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค
จากวัดหลงซานมายัง “อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค” หรือ Chiangkaicheck Memorial Hall เป็นสถานที่สำคัญและเป็นแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเลยค่ะ
การเดินทาง เดินทางมาโดยรถไฟฟ้า MRT สายสีแดง ลงสถานี Chiang Kai-Shek ทางออก 5
เดินออกมาตามทางก็จะเห็นความยิ่งใหญ่นี้ สถานที่ใหญ่มากและมีนักเที่ยวเดินทางมาเรื่อยๆ
เห็นภาพจากในอินเตอร์เน็ตก็สวยดีค่ะ แต่พอมาเห็นของจริง เกินคำบรรยายเลยค่ะ ยิ่งใหญ่ ใหญ่โตมาก ภายในจะมีซุ้มประตู หอพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์ให้ท่านเจียงไคเช็คและหอประชุมสองอาคาร ทุกอย่างใหญ่โตมโหฬารสุดๆไปเลย
ตรงนี้เป็นลานกว้าง เรามาได้เวลาพระอาทิตย์จะตกดินพอดี อากาศก็เย็นสบาย ลมพัดมาตลอด ได้ถ่ายรูปเล่นสักพักก็ต้องรีบเดินทางไปจุดหมายต่อไป
4.เขาช้าง
อีกหนึ่งสถานที่และกิจกรรมยอดฮิต สำหรับใครที่มาไทเป นั่นก็คือการมาปีนเขาช้าง หรือ Xiangshan เพื่อมายังจุดชมวิวเมืองไทเป /จุดวิวตึกไทเป101
การเดินทาง เดินทางมาโดยรถไฟฟ้า MRT สายสีแดง ลงสถานี Xiangshan ทางออก 2
ไม่ว่าจะคนสูงวัยหรือเด็กตัวน้อย ก็มาเดินกันทั้งนั้นเลยค่ะ ขอแนะนำว่าพกน้ำดื่มมาด้วยจะช่วยได้เยอะเลย ทางขึ้น-ลง ไม่ยากเพราะเป็นบันไดทั้งหมด และมีราวจับตลอดทาง ถ้าเหนื่อยก็จะมีจุดให้นั่งพักอยู่ตลอดทาง
แรกๆก็หนื่อยอยู่ แต่พอหลังกลับไปดูวิวก็หาย มีแรงเดินต่อเลยค่ะ
ตอนเรามาถึงคือมืดแล้วค่ะ แต่ก็ไม่ได้เดินลำบาก เพราะมีไฟส่องตลอดทาง จุดแรกที่ได้แวะ คนมาถ่ายรูปกันเยอะมาก วิวสวยมาก
แต่รู้สึกยังไม่สุดนัก จึงเดินขึ้นมาอีกหน่อยเป็นจุดที่ฮิตเพราะถ้าหากใครปีนขึ้นไปที่หินสูงนั้นได้ ก็จะได้ภาพมุมมที่เก๋สุดๆเลย (ซึ่งเราไม่ได้ปีน5555)
เราเดินต่อมาอีกค่ะ ขึ้นมาจนสุดยอดเขาเลย (มีพี่คนไทยบอกว่าข้างบนสวยกว่า) ถึงจุดชมวิวหอบกับเลยทีเดียว ด้านบนจะเป็นภาพมุมที่สูงขึ้นไปอีก ได้เห็นตึกไทเป101 ไกลออกไป แต่ก็เป็นภาพที่สวยงามไม่แพ้กันเลย วิวกินใจมาก
ของจริงสวยมากๆ ยิ่งมองลงไปเห็นเมืองอันกว้างใหญ่ สุดยอดเลย
ส่วนขาลงเหมือนจะเร็วกว่าขาขึ้น แต่ก็อย่างที่บอกหละค่ะ ทางเป็นบันไดทำให้ต้องจิกขาเกร็งเลย ใครที่ไม่ได้พกน้ำมา ด้านล่างตรงทางขึ้นเขามีตู้กดน้ำดื่มนะ เรารีบพุ่งไม่รอช้าเลย
5.ตลาดซื่อหลิน
ใช้พลังงานจากการปีนเขาไปเยอะ ก็หิวสิคะ และแล้วเราก็มาต่อกันที่ตลาด “ซื่อหลิน” เป็นตลาดที่ใหญ่ และมีพื้นที่ตามตรอกซอกซอยเยอะ เดินขาลากอีกเช่นเคย
การเดินทาง เดินทางมาโดยรถไฟฟ้า MRT สายสีแดง ลงสถานี Jiantan ทางออก 1
จากสถานีเดินข้ามถนนมาอีกประมาณ 70 เมตรก็จะเจอผู้คนมากมายเช่นนี้ค่ะ
นอกจากของกินที่มีเยอะมากมายแล้ว ก็มีร้านค้าเสื้อผ้าแฟชั่นต่างๆอีกด้วย
ได้กินโดนัทน้ำตาล ธรรมดาๆไม่ต่างจากบ้านเรา 5555
เนื้อย่างร้านดังที่มีขายมากมายในไทเป
นมอัลมอลด์ หอมๆ รสชาติก็กินได้
สรุปแล้วมาหาของกิน แต่ก็ได้ของที่ไม่ถูกใจมากนัก ร้านอาหารเยอะจริง แต่ก็เป็นอาหารท้องถิ่น บางอย่างก็ดูน่ากินนะ แต่ก็ไม่กล้าลอง เลยกลับไปหาของกินเพิ่มที่ Ximending กันค่า
6. Ximending
ก่อนหน้านี้เราเคยมากินบุฟเฟ่กันที่ Ximending (ซีเหมินติง) แล้ว แต่พอกินเสร็จร้านค้าก็ปิดกันไปเยอะ เลยไม่ค่อยได้เดินเล่นเท่าไร มาคราวนี้ก็มีเวลาเยอะ เลยได้เพลิดเพลินกับที่นี่พอสมควร โดยเฉพาะกับเรื่องอาหาร!!
การเดินทาง เดินทางมาโดยรถไฟฟ้า MRT สายสีเขียวหรือสายสีน้ำเงินเลยลงสถานี Ximending ทางออก 6
เริ่มจากร้านแรก มาถึงถิ่นต้นตำรับทั้งทีต้องลองสักหน่อย “ไก่ทอด Hot Star” ตั้งอยู่ใกล้กับ KFC ป้ายสีฟ้าเห็นเด่นชัด มาแต่ไกล
คนเยอะแต่รอไม่นานมาก เพราะจำกัดการซื้อต่อคน จากที่เคยกินสาขาที่ไทย พอได้มากินของที่นี่ เราให้คะแนนที่นี่เต็มเลยแหละ รสชาติดี และไก่ฉ่ำมาก
อีกร้านต่อมา คนเยอะไม่แพ้กัน เป็นร้าน “มันฝรั่งบดอบชีส” ร้านเล็กๆตั้งอยู่ในตรอก คนต่อคิวกันเพียบ หน้าตาสีเหลืองๆ ใส่เครื่องเคียงได้หลากหลาย ตอนแรกก็แบบงู้ย ดูกินลำบากแหะ แต่เห็นว่าคนเยอะต้องอร่อยแน่ๆ
เมนูของที่ร้าน ราคาเริ่มต้นที่ 60NT เท่านั้น
ได้มาแล้ว อร่อยมาก ต้องมา! มันฝรั่งบดหอมๆ น้ำซอสเข้มข้น เราเลือกใส่เครื่องเคียงเฉพาะที่เราชอบได้ค่ะ รสชาติทุกอย่างจึงออกมาถูกใจมากๆ กินตอนอากาศหนาวๆ ยิ่งอร่อยไปเลย
ปิดท้ายด้วยของหวาน เรามากินชานมร้าน “50lan” ต้นตำรับ KOI ร้านตั้งอยู่ใกล้ๆกับร้านมันฝรั่งบดอบชีส ต้องรับบัตรคิวเช่นกัน แต่รอไม่นาน รสชาติชาหอมมาก กลิ่นน่าจะหอมมาจากน้ำตาลทรายแดง อร่อยมากกกก รสชาติติดหวานไปหน่อย ต้องรอน้ำแข็งละลายสักพักถึงเข้ากันพอดี
ร้านค้าใน Ximending ขายของอารมณ์คล้ายๆมาเดินสยาม
มีตู้คีบตุ๊กตาเรียงกันอย่างเยอะ
ก่อนกลับเราได้แวะซื้อของฝากร้านหนึ่งใน Ximending ตอนแรกกะจะเดินเข้าไปดูก่อน แต่พนักงานดูแลดีมาก ช่วยแนะนำ ช่วยเลือก ให้ชิมแล้วชิมอีก ชิมเกือบหมดทุกยี่ห้อเลย 55555 แถมได้ชาอร่อยๆมาชิมด้วย มีโปรโมชั่นซื้อ 4 แถม 1 ให้อีก เราเลยจัดมาเลยค่ะ ตกกล่องละ 380NT ที่จริงแล้วซื้อในสนามบินก็ไม่ต่างกันค่ะ แต่พี่พนักงานบริการดีจริง ต้องอุดหนุนๆ
ของเต็มไม้เต็มมือ เดินจนร้านค้าปิดอีกเช่นเคย ได้เวลากลับที่พักไปพักผ่อน พรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับ แต่ยังมีลิสที่เที่ยวเหลืออีกหนึ่งสถานที่ นอนเอาแรงก่อนเลยค่ะ
วันสุดท้ายของการอยู่ไทเป ก่อนกลับไทยในช่วงบ่าย ฮื้อ ยังอยากเที่ยวต่ออยู่เลย
วันสุดท้าย..แล้วนะ
วันนี้อากาศแจ่มใสแต่เช้าเลย ตามแพลนคือจะไปดูน้ำพุร้อน Xinbeitou (ซินเป่ยโถว) ก่อนจะเดินขึ้นเครื่องในช่วงบ่าย ก็ขอเที่ยวอีกหน่อยละกัน
การเดินทาง เดินทางมาโดยรถไฟฟ้า MRT สายสีแดง ลงสถานี Beitou จากนั้นเปลี่ยนสายเป็นสายสีชมพูไปลง Xinbeitou
เมื่อเช็คเอาท์จากที่พัก แล้วก็เดินมายังสถานีรถไฟใต้ดิน ระหว่างทางผ่านร้านชานมร้านหนึ่งค่ะ ไม่แวะได้ยังไง ร้านชื่อ “DAY DAY DRINK” ไข่มุกอร่อย แต่ชารสชาติเหมือนชาพม่าซองเขียว หอม อร่อยดีค่ะ ขาดชานมไข่มุกไม่ได้เลยสักวัน 5555
เราฝากกระเป๋าไว้ที่ตู้ล็อกเกอร์ที่ Taipei main เพื่อความสะดวกคล่องตัวในการเดินทาง เพราะยังไงก็ต้องกลับที่ที่สถานีนี้ เพื่อนั่งรถไฟไปสนามบินค่ะ
เปลี่ยนสายเป็นสายสีชมพูไปลง Xinbeitou
ไปทางไหนต่อดีต้องเดินไปดูตามป้ายค่ะ
ซึ่งจากสถานีก็ข้ามถนนมา และเดินทางแบบนี้
ที่เมือง Xinbeitou มีห้องสมุดที่ติดอันดับโลกด้วย ใครมาที่นี่ห้ามพลาด บรรยกาศดี ร่มรื่นมาก การออกแบตึกอาคาร สวยแปลกตา แต่ไม่ทันเข้าไปด้านใน เสียดายจริงๆ
บริเวณรอบๆห้องสมุด ตรงนี้มีบริการห้องน้ำด้วยค่ะ สะอาดและทำดีมากเลย
มีน้ำตกเล็กๆอยู่ใกล้ๆ เสียงน้ำตกฟังแล้วสบายจิตสบายใจเหลือเกิน
จะดูน้ำพุร้อนที่มีควันพวยพุ่ง ต้องดูที่Thermal Valleyนะคะ เราเดินตามป้ายแล้วหลงสักพัก ก็ไม่เจอ สุดท้ายเราก็ต้องรีบกลับกันก่อน กลัวจะตกเครื่องเอง
แม้การมา Xinbeitou ครั้งนี้อาจจะวางแผนผิดคาดไปสักหน่อย จริงๆแล้วตื่นสาย5555 แต่สำหรับเมืองนี้ก็เป็นเมืองที่น่าสนใจไม่น้อย ถ้าหากใครอยากมาแช่ออนเช็นก็มีให้เลือกทั้งแบบรวม แบบส่วนตัว เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงเลย
เมื่อกลับมาถึงสถานี Taipei Main ก็รีบกลับมาต่อTaoyouan MRT ถึงสนามบินทันเวลา โอยใจจะวาย มีเวลาเหลือชอปปิ้งซื้อของฝากด้วย ก็ได้แวะชิมแวะซื้อขนมพายสับปะรดอีกหลายยี่ห้อกับขนมถั่วเขียวบดที่เอามาอัดเป็นรูป (ที่เคยกินคู่กับชาอู่หลง ที่จิ่วเฟิน) อร่อยยยมาก
และแล้วถึงเวลาจากไต้หวัน ยังอยากเที่ยวต่อเลย ไต้หวัน 7 วัน ยังไม่พอเลยจริงๆ หลงรักไต้หวันตั้งแต่วันแรกที่มาเยือน เป็นอีกหนึ่งประเทศที่คิดไว้ว่าต้องมีอีกรอบแน่ๆ
ถ้าชอบฝากติดตามด้วยนะคะ มีเรื่อง Update จะได้ไม่พลาดกันน้า
ขอบคุณทุกคนค่าาาา <3
Follow Me :
on Facebook Kalokkokgrace
on YouTube Kalokokgrace
on IG @kalokkokgrace