เที่ยวนครนายก เช้าเย็นกลับ ขับรถเที่ยวหนีฝุ่นเมืองกรุง
เที่ยวนครนายก ทริปหนีฝุ่น แบบใกล้ๆกรุงเทพฯ เราเลือกมาที่จังหวัด “นครนายก” เดินทางง่ายใกล้ชิดธรรมชาติ
.
.
จริงๆแล้วในเมืองควันและฝุ่นก็เป็นปัญหาที่อยู่คู่กันอยู่แล้วแหละ แต่ด้วยความที่เป็นฝุ่นขนาดเล็กมากๆอย่าง PM2.5 เราทุกคนต่างตื่นตระหนกกันเป็นพิเศษ ทั้งหาหน้ากากมาป้องกัน ทั้งหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง และสำหรับเรา เราเลือกออกจากเมืองซะเลย แม้จะเป็นเพียง 1 วันสั้นๆก็ตาม
.
“นครนายก” เป็นจังหวัดที่ไม่ได้อยู่ในหัวเลย ไม่รู้ว่ามีอะไรเด่น ไม่รู้ว่ามีอะไรดัง เอาตรงๆก็หาข้อมูล วันที่เดินทางนั่นแหละ แต่จากที่ได้เดินทางมาแล้ว จะเห็นได้เลยว่าสถานที่เที่ยวจะอยู่ไม่ห่างกันมาก มีทั้งฟาร์ม น้ำตก เขื่อน ทุ่งนา และกิจกรรมผจญภัยต่างๆ เป็นต้น ในหนึ่งวันเพื่อนๆก็สามารถเที่ยวนครนายกได้หลายที่ หลากหลายแแน่นอน
และถ้าหากใครมีเวลามากกว่า 1 วันแล้วละก็ สามารถขับเลยขึ้นมาเที่ยวจังหวัดใกล้เคียงอย่าง เช่น จังหวัดนครราชสีมา , ปราจีนบุรี , สระบุรี ได้อีกด้วย แต่น่าเสียดายที่เราไม่มีเวลาขนาดนั้น เลยได้ไปเที่ยวพักผ่อนแบบกรุบกริบ ทริปสั้นๆครึ่งวันจะเป็นยังไง มาดูกันเลย
สถานที่ที่ได้ไปทั้งหมด
- ร้านอาหารศรีสุนีย์โภชนา
- สะพานทุ่งนามุ้ย
- น้ำตกนางรอง
- เขื่อนขุนด่านปราการชล
เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯประมาณ 10.00น. ขึ้นทางด่วนลงถนนวิภาวดีรังสิต แล้วขึ้นโทเวล์ดินแดง ยาวมาลงเส้นคลองหลวง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ดูจากเวลาแล้ว ก็น่าจะถึงเป็นมื้อเที่ยงพอดี เลยปักหมุดไปที่ร้านอาหารเป็นอันดับแรก
.
ร้านอาหารศรีสุนีย์โภชนา
หากใครเคยมานครนายก คงได้เคยเห็นภาพ “ไก่ย่างวิเชียร” ย่างกัน ตลอดทาง เลือกกันไม่ถูกว่าจะไปร้านไหนดี เราจึงเลือกจากรีวิวในอินเทอร์เน็ต ก็ได้มาเป็นร้านนี้ “ร้านศรีสุนีย์โภชนา“ ซึ่งอยู่ใกล้กับที่เที่ยวจุดหมายต่อไปของเราพอดี และเป็นร้านที่มีชื่อเสียงทั้งด้านรสชาติอาหาร ความเก่าแก่ และไก่ย่างหนังกรอบด้วยค่ะ
เที่ยววันธรรมดาคนน้อย เราสามารถจอดรถหน้าร้านได้เลย ร้านนี้ค้าขายหลายอย่างทั้งของฝาก สินค้า OTOP ขนมหวาน ของกินเล่น ของท้องถิ่นต่างๆ หากมารับประทานอาหารก็เดินลงบันไดมาค่ะ ตอนเรามามีนั่งกันอยู่ 2 โต๊ะ คนไม่เยอะเท่าไร
อาหารที่สั่งมามี ไก่ย่างหนังกรอบครึ่งตัว , แกงส้มชะอมไข่ , ปลาหมึกทอดกระเทียม , ส้มตำไทย รสชาติใช้ได้ ราคาประมาณ สี่ร้อยกว่าบาท ก็ถือว่าสมเหตุสมผล เพราะได้อาหารเยอะมาก
.
สะพานทุ่งนามุ้ย
เมื่อกินข้าวเติมพลังเสร็จแล้ว ก็มายังสถานที่เที่ยวแรก “สะพานทุ่งนามุ้ย” ก่อนมาก็รู้สึกเฉยๆ ที่ไปก็คิดว่าคงได้ถ่ายรูปสวยๆเท่านั้นแหละ 5555555 ดูจากรูปของคนอื่นก็คงเป็นทุ่งนาทั่วไป ที่ฮิตเอามาเป็นสถานที่เที่ยวเก๋ๆ
ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก มาถึงมีลานจอดรถกว้างใหญ่ มีรถจอดอยู่ 2-3 คัน ยังนึกในใจ จะดีไหมน้าาา แต่มาถึงแล้วนิหน่า เข้าไปดูให้เห็นกับตาเลยค่ะ เสียค่าบำรุงให้ทางสถานที่ ค่าเข้านั่นแหละค่ะ คนละ 10 บาทเท่านั้นเอง
ผ่านซุ้มประตูเข้ามาก็เป็นร้านค้า ร้านอาหารกินเล่น เล็กๆน้อย มีที่นั่งให้เรานั่งชมวิวทุ่งนาสบายๆ ทั้งในที่ร่ม และกลางแจ้ง
ร้อนๆแบบนี้ก็สั่งเครื่องดื่มมาก่อนเลยค่ะ ดับกระหาย ต้องนั่งทำใจกับแดดช่วงบ่ายๆนิดนึง แดดแยงตามาก แต่ถ้าจะถ่ายรูปก็ถือว่าฟ้าเปิดสดใส สวยงามเลยค่ะ
เมื่อพร้อมแล้วเราก็มาเดินเล่นที่สะพานไม้ไผ่ เพื่อชมบรรยากาศทุ่งนา พร้อมถ่ายรูปเล่นกันได้ตลอดทาง ในความโชคดีของการมาวันธรรมดาก็คือบรรยากาศที่เงียบ และถ่ายรูปสะดวกมากเลย
ระหว่างทางยังมีร้านกาแฟและเครื่องดื่มอยู่กลางทุ่งด้วย
เมื่อเดินมาสุดเส้นทาง บริเวณนี้จะเจอกับต้นไม้ใหญ่ ร่มรื่นมากๆ มีบันไดให้ปีนขึ้นไปด้วยค่ะ มองจากข้างล่างก็คิดว่าไม่สูงอะไรนะ แต่พออยู่ด้านบนแล้ว ขาแอบสั่นนิดนึง เด็กๆน่าจะชอบแต่ก็ต้องระมัดระวังมากๆ
ใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่นี้ ร่มรื่นมากๆ ทำให้อยากนั่งอยู่ตรงนี้นานๆเลย ดูวิวสิคะ ทุ่งนา ท้องฟ้า และภูเขา ดูแล้วทำให้ใจเย็นสบายมากเลย
นอกจากนี้ยังมีชิงช้ายักษ์ ที่ผูกกับต้นไม้ วิถีบ้านๆเลย นั่งคนเดียวก็กำลังดี แต่ถ้านั่งสองคนมีลุ้นต้นไม้หัก 5555 เป็นอีกมุมสำหรับถ่ายรูปได้ค่ะ
และจุดสุดท้ายก่อนเราจะกลับ ถ้าพูดถึงทุ่งนา ก็ต้องมีกองฟางนี่แหละค่ะ ขาดหุ่นไร่กาไปอีกอย่าง แต่การได้มาถ่ายรูปและใกล้ชิดธรรมชาติที่นี่ ก็ถือว่าเพลินมากๆเลย ไม่คิดว่าจะใช้เวลาอยู่ที่นี่นาน
โพสต์ท่าบังแดด แล้วก็บังแดดจริงๆด้วยค่ะ อยู่กลางทุ่งแบบนี้ ถ้าแดดมาก็ร้อนสุดๆเลย
ทำนาเสร็จแล้ว …อะนอนพักดีกว่า 55555
หยิบฟางที่มีมาจับโยนเป็นพร็อบถ่ายรูป เก๋ๆ
เดินถ่ายรูปมานาน ทั้งเหนื่อยและร้อน ก่อนจะกลับเราเลยแวะร้านไอศกรีมกะทิ กินให้ชื่นใจค่ะ คนซื้อเยอะมาก บอกเลยว่าห้ามพลาดนะ หอมกะทิมากๆ นุ่ม นวล ละมุนลิ้น ยิ่งกินตอนอากาศร้อนๆแบบนี้ โอ้วว ฟินมากเลยทีเดียว
.
น้ำตกนางรอง
น้ำตกที่จังหวัด “นครนายก” มีหลายที่มาก เราเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว กะว่าจะเป็นที่สุดท้ายที่ไว้สำหรับนั่งชิลๆ พักผ่อนท่ามกลางน้ำตกเลยเลือกมา “น้ำตกนางรอง” ขับมาจากสะพานทุ่งนามุ้ยมาไม่ถึง 5 นาที
ขับรถเข้ามาด้านในสถานที่เที่ยวได้เลย ไม่เสียค่าบริการ เข้ามาถึงก็ได้ยินเสียงน้ำตกเลยค่ะ ชอบมากๆ ยังไม่เห็นว่าเป็นยังไง แต่พอเราเดินลงไปดูเท่านั้นแหละค่ะ เดินกลับขึ้นรถแล้วไปต่อเลยทันที
ไม่ใช่น้ำตกไม่สวยนะคะ แต่ว่าเป็นช่วงน้ำน้อย (น้อยมากๆ) และมีคนกลุ่มใหญ่อยู่บริเวรนั้น ดูท่าจะไม่เป็นไปแบบที่คิดเรา จึงทำเวลาไปยังที่เที่ยวต่อไป
.
เขื่อนขุนด่านปราการชล
ที่นี่เป็นแลนด์มาร์คหนึ่งเลยถ้าพูดถึงจังหวัด “นครนายก” นอกจากจะมาถ่ายรูปและชมวิวเขื่อนอันยิ่งใหญ่แล้ว ยังมีกิจกรรมทั้งการล่องเรือ และการขับรถกอล์ฟชมสันเขื่อนอีกด้วย
จากน้ำตกนางรอง เราก็ไม่รอช้า มุ่งหน้าตรงขึ้นมา เขื่อนขุนด่านปราการชลเลยทันที อยู่ไม่ห่างกันเลย ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเท่านั้น
เวลาเหลือน้อยแล้ว เราจึงเลือกขับรถกอล์ฟ เพื่อไปชมวิวตลอดแนวสันเขื่อน ราคาเช่า 350บาท/1ชั่วโมง นั่งได้สูงสุด 6 คน ราคาค่อนข้างสูง ถ้าเทียบกับเส้นทางที่ขับ ที่ไม่ได้ไกลมาก
ใครที่ขับรถไม่เป็น ก็สามารถขับรถกอล์ฟได้นะคะ ไม่ยากเลย แค่เหยียบคันเร่งและก็บังคับพวงมาลัยเท่านั้น ขับเพลินๆ กินลมชมวิว จะมีจุดพักรถให้ทั้งหมด 5 จุด ให้เราจอดได้เฉพาะจุดจอดที่เขาให้จอดเท่านั้น ฝ่าฝืนมีค่าปรับนะจ๊ะ สำหรับเรา จอดจุดไหนวิวก็คล้ายๆกันค่ะ
แต่ที่ชอบก็คือบรรยากาศที่ได้มองออกไปเห็นแอ่งน้ำอันกว้างใหญ่ ลมเย็นสบายมาก (แม้แดดจะยังร้อน) มันก็ทำให้จิตใจเราสงบและผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่อเลย
ถ้าได้ยืนเกาะรั้วตรงนี้ แล้วยื่นหน้าไปหน่อย ลมโบกพัดโชยมา แบบว่าสดชื่นมากๆ เย็นมากๆ
ท่าบังแดดต้องมาแล้วล่ะ 55555
ให้เวลาขับตั้ง 1 ชั่วโมง แต่จริงๆทางก็ไม่มีอะไรมาก ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเราก็ขับกลับกันค่ะ
กลับมายังจุดคืนรถ และมาถ่ายรูปกันต่ออีกหน่อย บริเวณนี้ก็ฮิตไม่น้อย สำหรับใครที่ไม่ได้เช่ารถกอล์ฟ และไม่อยากเดินไปไกลๆ รูปถ่ายมุมนี้ก็เห็นแอ่งน้ำกว้างใหญ่ได้เช่นกัน
จุดนี้เป็นที่สำหรับลงไปล่องเรือด้วย ตอนนั้นเวลาประมาณเกือบๆ 5 โมงเย็น เราเห็นคนที่ไปล่องเรือกำลังเดินขึ้นมา เห็นแล้วก็อดเสียดาย ถ้ามีเวลาคงได้ทำกิจกรรมอีกมากมายที่นี่
ท่าบังแดดอีกละ แต่ไม่บังแดดเอาสะเลย
ธรรมชาติที่นี่สวยงามและอุดมสมบูรณ์จริงๆ ขนาดมาแค่แป๊ปเดียวนะเนี่ย
การพักผ่อนของเราคือการเที่ยว ถึงแม้เวลาที่มีจะน้อยนิด แต่มันก็ได้เติมเต็มประสบการณ์ชีวิตของเราไปอีกขั้นหนึ่ง จังหวัด “นครนายก” ที่เราไม่เคยคิดว่าอยากไป ก็มีอะไรบางอย่างชวนหลงใหลอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะไอติมกะทิ ที่สะพานทุ่งนามุ้ย เฮ้ย!! จริงๆชอบทุกที่ที่ไปเลยค่ะ
.
ติดตามทริปท่องเที่ยวอื่นๆได้ที่ : https://www.kalokkokgrace.com/travel
..
ถ้าใครชอบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกคนค่าาาา <3
Follow Me :
on Facebook Kalokkokgrace
on YouTube Kalokokgrace
on IG @kalokkokgrace
.